ต้นกำเนิดของ แคคตัส ที่น่ารู้

แคคตัส (Cactus) หรือ กระบองเพชร เป็นพืชที่เหมาะแก่การเลี้ยงเพราะความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่แตกต่าง พวกเขาเป็นสมาชิกในวงศ์ Cactaceae กระบองเพชรมีมากกว่า 127 สกุล และกว่า 2,047 สปีชีส์ ซึ่งประกอบด้วยพืชที่มีรูปร่างพิเศษที่ปรากฎเป็นลักษณะเอกลักษณ์ โดถิ่นกำเนิดของ กระบองเพชร คือทวีปอเมริกา โดยเฉพาะทวีปอเมริกาเหนือและใต้ ก่อนที่จะแพร่กระจายไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ และเกิดการปรับตัวเพื่อให้อยู่ได้กับทุกสภาพแวดล้อม รวมถึงทะเลทราย ทุ่งหญ้า และพื้นที่ภูเขา ต้นแคคตัส จะปรับตัวให้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและมักมีความท้าทาย แคคตัส คือ พืชที่มีการปรับตัวได้พัฒนากลไกการจัดการน้ำที่น่าทึ่ง เพื่อให้สามารถรอดชีวิตในสภาพแวดล้อมที่แห้งและน้อยน้ำ โดยสามารถเก็บน้ำไว้ในเนื้อเยื่อและลดการคายน้ำจากการเปลี่ยนจากใบเป็นหนามเพื่อรักษาความชุ่มชื้นทำให้พวกมันเป็นกลุ่มพืชที่มีเอกลักษณ์และน่าหลงใหลมากที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่งเลยก็ว่าได้

ความสามารถในการปรับตัวของ แคคตัส

แคคตัส หรือเจ้ากระบองเพชร อย่างที่รู้กันว่ามีการปรับปรุงตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถปลูกได้แม้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่สุดโต่งอย่างประเทศที่อากาศร้อนๆในแถบทะเลทราย โดยต่อมา แคคตัสสายพันธุ์ต่างๆ ก็ได้มีการนำมาปลูกใน กระถางแคคตัส เพื่อให้สามารถ ปลูกแคคตัส ได้ง่ายมากขึ้น และอีกประการหนึ่งก็เพื่อความสวยงาม ทำให้ดูแลได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วยนั่นเอง การปรับตัวของกระบองเพชรเป็นความสำคัญที่ทำให้พวกเขาเป็นพืชที่น่าทึ่งและเหมาะสมสำหรับการเลี้ยง ความสามารถในการปรับตัวทำให้พวกเขาสามารถรองรับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ และไม่ต้องการการดูแลที่ยุ่งยาก ถ้าหากกำลังมองหาพืชที่น่าสนใจและง่ายต่อการดูแล กระบองเพชรอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ มาดูกันเลยว่าเจ้าต้นกระบองเพชรคนเก่งของเรา มีการปรับตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้อยู่รอดในทุกสภาพแวดล้อม

การปรับตัวเพื่อรับแสงแดด

กระบองเพชรมีความสามารถในการปรับตัวในการรับแสงแดด บางสายพันธุ์จะเปิดใบให้มากขึ้นในช่วงเวลาที่มีแสงแดดสูง เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมผัสแสงแดดเพื่อกระบวนการการสังเคราะห์แสง ในขณะที่บางสายพันธุ์อาจจะปิดใบลงเพื่อลดการระบายน้ำในช่วงแสงแดดสูง เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ

การปรับตัวเพื่อการเก็บน้ำ

กระบองเพชรมีลักษณะใบที่เล็กลงหรือลดลงเป็นหนามๆ เพื่อลดการสูญเสียน้ำผ่านการระบายน้ำ ส่วนมากพวกเขาสามารถเก็บน้ำไว้ในใบและลำต้น ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถรองรับสภาวะแห้งได้ดีกว่าต้นไม้ประเภทอื่นๆ เพราะในช่วงสภาวะที่ต้นไม้รู้สึกแล้ง จะดึงน้ำจากในลำต้นที่ถูกกักเก็บไว้มาใช้แทน

ลักษณะของต้นกระบองเพชรที่พบได้ทั่วไป

หลายๆ พันธุ์แคคตัส ที่ทุกๆคนมักจะเห็นกันจนคุ้นตาคือ ถังทอง หรือชื่อเต็มๆของสายพันธุ์นี้ก็คือ Golden barrel cactus / Echinocactus grusonii ซึ่งอาจจะเห็นได้ตามคาเฟ่หลายๆแหล่ง รวมถึงสวนพฤกษศาสตร์หลายๆที่ ถ้าใครอยากดูของจริงๆสวยๆสามารถไปได้ที่ สวนนงนุชพัทยาเลย เขามีโดมสำหรับกระบองเพชรชนิดนี้โดยเฉพาะ แถมสภาพยังอุดมสมบูรณ์สุดๆ เรียกได้ว่าเป็นต้นกระบองเพชรที่สามารถพบได้ง่าย และเป็นเอกลักษณ์ของกระบองเพชรมากเลยทีเดียว แต่กระบองเพชรไม่ได้มีเพียงแค่รูปแบบหรือลักษณะต้นแค่รูปแบบเดียวเท่านั้น แต่ยังมีลักษณะอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้เหล่าคนรักกระบองเพชรต่างก็ชื่นชอบ

ลำต้นและหนาม

อย่างที่ทราบกันดีว่ากระบองเพชรจะเป็นพืชชนิดที่ไม่มีใบ เนื่องจากเปลี่ยนรูปเป็นหนามและลดการคายน้ำ และเพื่อป้องกันสัตว์ฟันแทะต่างๆเข้ามากัดกินลำต้น ส่วนมากจะมีลำต้นไม่สูงมากเป็นทรงกลม อวบน้ำ มีหนามปกคลุมรอบล้อมแต่ในบางสายพันธุ์ก็อาจจะมีลักษณะปกคลุมเป็นขนๆ ซึ่งจะมองเห็นได้ชัดเจนกว่าหนาม เช่น แมมขนแกะ แมมขนนก ซึ่งก็เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีผู้เลี้ยงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความน่ารักเฉพาะตัวที่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ

ดอก

สำหรับคนที่เลี้ยงกระบองเพชรจะรู้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียวที่กระบองเพชรจะออกดอก เพราะถ้าแดดไม่ถึง น้ำเยอะเกินไปหรือน้อยเกินไป สภาพอากาศไม่เอื้อก็ยากมากที่จะพบ ดอกกระบองเพชร หรือในบางสายพันธุ์อาจจะใช้ระยะเวลานานหลายปีถึงจะออกดอก ซึ่งสี ดอกแคคตัส ที่พบมักจะเป็นสีขาว สีเหลือง สีชมพู และออกเป็นลักษณะดอกเดี่ยวไม่ออกเป็นพุ่มๆ

ผล

ผลของกระบองเพชรจะมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกผิวเรียบ มีตุ่มนิดๆหน่อยๆ ซึ่งเมื่อปล่อยให้ผลมันแห้งไป สุดท้ายจะสามารถนำมาเพาะกระบองเพชรต่อได้ โดยนำเมล็ดมาจากในผลนั่นเอง แต่ในบางต้นอาจจะมีการสลัดผลออกเพื่อให้เมล็ดกระจายออกไป ในบางแหล่งที่อยู่ผลกระบองเพชรอาจมีขนาดใหญ่จนสามารถกินได้เลย (แต่ต้องเอายางออกให้หมดก่อน)

5 สายพันธุ์กระบองเพชรยอดนิยม

วันนี้ทางเราจะมาแนะนำสายพันธุ์ แคคตัสยอดนิยม ที่คนเลี้ยงเป็นจำนวนมาก และสามารถหาได้ทั่วๆไปแถมยังราคาไม่แพงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองเลี้ยงว่าจะชื่นชอบหรือไม่ ไม่ว่าจะซื้อไปตกแต่งบ้าน แต่งสวนก็นับว่าเป็นพืชที่น่ารัก และน่าเลี้ยงมากทีเดียว มีหลายพันธุ์มากที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัว สามารถทำเป็นงานอดิเรกเล็กๆให้กับตัวเองได้เลย

โบลิเวีย แคคตัส (Lobivia)
จุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือ ดอก เพราะมีดอกที่น่ารักมากกก ลำต้นจะมีสีเขียวเข้ม มีหนามล้อมรอบ ถ้าหากอยู่รวมกับต้นกระบองเพชรสายพันธุ์อื่นๆ อาจจะดูเป็นต้นกระบองเพชรที่ดูธรรมดาๆแต่ถ้าเลี้ยงจนออกดอก บอกเลยว่าไม่แพ้ใครแน่นอน
แอสโตรไฟตัม (Astrophytum)
สายพันธุ์นี้มีแตกแยกออกไปอีกหลายสปีชี่ส์ เอกลักษณ์ที่เด่นๆจะอยู่ที่ฟอร์มของต้นที่จะมีทั้งรูปแบบ จุดๆ รูปดาว กระดองเต่า และอื่นๆอีกมากมาย แอสโตรสามารถออกดอกได้อีกด้วย ซึ่งในสายพันธ์นี้มี แคคตัส พันธุ์หายาก อย่าง แอสโตรไฟตัม ออนาตัม ที่คนตามหามาเลี้ยงกันอย่างมากมาย เพราะมีทรงสวยมากกกก
กระบองเพชรหูกระต่าย (Opuntia microdasys)
ลักษณะเด่นของชนิดนี้คือมีหูแยกออกมาจนเหมือนหูกระต่าย หรือหลายๆคนอาจจะเรียกว่า กระบองเพชรมิกกี้เมาส์ ลำต้นจะเล็กๆไม่ใหญ่มากแต่สามารถเลี้ยงจนโตกลายเป็นต้นใหญ่ได้เลย แถมยังน่ารักมากๆ
ยิมโนคาไลเซียม (Gymnocalycium)
หรือที่คนมักเรียกสั้นๆว่า ยิมโน ยิมโนเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์มาแรงเนื่องจากมีรูปแบบที่หลากหลายและมีสีสันธุ์เฉพาะตัว รวมถึงสายพันธุ์ LB2187 ที่หลายๆคนต่างชื่นชอบ เพราะมีสันหนามคมสวย หนามสั้น โค้งลงตามพลู แต่ก็ยังมี ยิมโนด่าง ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะนอกจากสีเขียวแล้ว อาจจะมีสีเหลือง สีชมพูมาปะปนได้อีกด้วย
แมมมิลลาเรีย (Mammillaria)
จะขาดไปไม่ได้เลยกับตระกูลแมม เพราะนอกจากจะมีความนิยมจากลักษณะขนฟูๆที่น่ารักแล้วยังมีดอกสีชมพูน่ารักๆมาพร้อมกันด้วย แต่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ หลายๆคนเชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่ทำให้คนเลี้ยงมีโชคเกี่ยวกับเมตตามหานิยม

กระบองเพชร พืชน่าเลี้ยงที่ไม่ได้เลี้ยงยากอย่างที่คิด

บางคนอาจจะเข้าใจว่ากระบองเพชรเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการน้ำเลย อยากบอกว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากกระบองเพชรเป็นเพียงแค่ต้นไม้ที่ต้องการน้ำน้อย แต่ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการน้ำเลย เวลารดน้ำก็รดให้ชุ่มไปเลยในหนึ่งครั้ง ถ้าในช่วงฤดูร้อนอาจจะ 3-4 วันรดน้ำ 1 ครั้ง แต่ถ้าหากเป็นในช่วงฤดูฝนอาจจะยืดระยะเวลาในการรดน้ำออกไปเป็น 7 วัน เพื่อไม่ให้ได้รับน้ำและความชื้นมากเกินไปนั่นเอง ในคนที่ดูแล แคคตัส ราคาแพง อาจจะมีการดูแลที่พิเศษมากขึ้นอีกหน่อย อาทิ ใส่ยากันเชื้อรา กันเพลี้ย อย่างเป็นประจำ แต่ถ้าใครอยากให้กระบองเพชรแข็งแรงและออกดอกมาให้เห็น ให้ได้ชื่นใจกันสามารถใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นกระบองเพชรได้ การดูแลต้นกระบองเพชรไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยก็มีแดดเพียงพอต่อกระบองเพชรแน่นอน การที่ต้องการให้กระบองเพชรออกมาเป็นต้นที่แข็งแรง ควรได้รับแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน แต่ต้องไม่ใช่แดดที่แรงเกินไป เพราะลำด้นจะสามารถไหม้ได้นั่นเอง